Tuesday, October 17, 2006

เรือนไทย part2

...เสียงรถมอเตอร์ไซด์2คันเร่งความเร็วดังกระหึ่ม
ท่ามกลางเหล่าจิ้งหรีด ที่พากันส่งเสียงฝ่าใบหญ้าที่สูงชันตลอดทางกลับที่พัก
ลมเย็นๆพัดกระทบหน้ามาเป็นระลอกระลอก..

เจ้าของที่พักอธิบายถึงสถานที่พักพิงคืนนี้ไว้ว่า..
จากทางเข้าจะพบทุ่งหญ้าเป็นลานกว้างประหนึ่งทุ่งหญ้าสวันน่า
ที่จะทอดตัวยาวไปสู่ประตูทางเข้าของอาคารสีขาวหลังใหญ่
เจ้าของที่เรียกสถานที่นี้ว่า White House
ในใจเริ่มจินตนาการตาม..

มอเตอร์ไซด์เริ่มลดความเร็ว และมาหยุดที่หน้าประตูกรงอันนึง
ประตูกรงมีสภาพถูกต้นไม้ใบหญ้าเกาะพันจนมองแทบไม่เห็น...
มันเป็นทุกอย่าง...อย่างที่เจ้าของว่าไว้จริงๆ
ทุ่งหญ้าสวันน่า เป็นทุ่งหญ้าคาที่เจริญงอกงามอย่างดี หลังฝนตกส่งกลิ่นเขียวๆฟุ้งไปทั่ว
White House ก็คือโกดังทาสีขาวขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้แต่ไกล
ในใจแอบคิด..เจ้าของช่างมีอารมณ์สุนทรีย์ซะจริง

ว่าแต่...มันช่างแตกต่างจากเรือนไทยหลังงามแสนชิลเมื่อกี้คนละขั้ว!!
คืนนี้ยังไงก็ต้องนอนที่นี้ เจ้าของสถานที่โทรมาถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ก็ตอบไปอย่างแมนว่า สบายมากค่ะ แต่ในใจแอบนึก..ไม่น่าถาม!!

เพิ่งรู้สึกได้ว่ามีเพื่อนแท้เพิ่มมาอีกหนึ่งคน..

มันคอยดูดเอาเวลาเกือบทุกวินาทีออกจากหัว เพื่อไม่ให้ใช้เวลาไปกับการคิดถึงเรื่องเศร้าๆ
พูดแต่เรื่องบ้าๆบอๆ และด่าทอตลอดเวลาที่เสียใจ..
ขอบคุณมากที่ทนความทุเรศของเราได้ทุกวี่วัน...มานานถึงขนาดนี้

คืนนั้นจบลงด้วยการพยายามทำใจให้สงบด้วยการช่วยน้องทำงานจนตาปรือ...แล้วนอนหลับไป

เช้ามา จำลางๆได้ว่าฝัน...
ฝันลางๆที่คล้ายว่าจะดี มีบุคคลหลักๆเพียงไม่กี่คน..เป็นคนที่นึกถึงก่อนเข้านอน
คิดในใจ..อยากหลบเข้าไปอยู่ในความฝันได้...คงดีไม่น้อย

พระอาทิตย์ส่องแสงบอก...ได้เวลากลับบ้านแล้ว
มีภารกิจมากมายต้องทำ..พรุ่งนี้ก็ยังมีอยู่
เวลามันก็เดินผ่านทุกอย่างเหมือนทุกวัน..
แล้วมันก็จะผ่านไป..อีกครั้ง

1 comment:

Anonymous said...

รีบทำงานของพี่ดิ ที่ว่าจะทำอ่ะ จะรอไปช่วยเป็นเลเบอร์เนี่ยเก็บกระเป๋าแล้วน่ะ เย้ เย้