Saturday, April 08, 2006

บทเพลงแห่งความเป็นเช่นนั้นเอง

บทเพลงแห่งความเป็นเช่นนั้นเอง
........ความเบิกบาน

มิใช่ภาวะที่เกิดขึ้นได้โดยพยายาม
ทั้งเจตนาให้เกิดก็ไม่ได้เช่นกัน

จิตที่เบิกบาน เป็นไป เพราะเป็นไป
เป็นไป เพราะไร้แรงผลักเป็นไป
เพราะจิตเปิดสู่ความเป็นเช่นนั้นเอง

อย่าได้ฝืน อย่าได้ดึง อย่าพยายาม
ไม่มีอะไรต้องทำ ไม่มีอะไรไม่ต้องทำ

สิ่งซึ่งปรากฏขึ้นในทุกขณะจิต
ไร้ความสำคัญโดยสิ้นเชิง
ไร้ความจริงใด ๆ ทั้งสิ้น
ใยเล่าจักต้องใส่ใจหาความหมาย
ใยไปติดยึดกับสิ่งเหล่านั้น
ใยต้องไปตัดสินเขา ตัดสินเรา

จงทำตัวสบาย ๆ
มองดูปรากฏการณ์อย่างเป็นเช่นนั้น
บัดเดี๋ยวก็โผขึ้นสู่เบื้องบน
บัดเดี๋ยวกลับยุบลงเบื้องล่าง
ขึ้นแล้วก็ลง เหมือนรอบคลื่น

ไม่พยายามจัดการให้ได้ดังใจ
ไม่พยายามเปลี่ยนการณ์ที่ปรากฏ
เพียงเฝ้าสังเกตความลี้ลับ
อัศจรรย์ใจไปกับการก่อเกิด
มหัศจรรย์ใจไปกับการดับสูญ
รอบแล้วรอบเล่า ก่อเกิดแล้วดับสูญ

เพราะเราพยายามแสวงหาความสุข
เหตุฉะนี้ เราจึงไม่เคยพานพบ
เปรียบดั่งสายรุ้งเจิดจำรัส
เอื้อมมือคว้า แต่ไม่เคยได้สัมผัส
เหมือนเจ้าหมาน้อย วิ่งวนไล่งับหางตัวเอง

แม้ว่าสันติและเบิกบาน
จะมิได้ดำรงให้เห็นเช่นรูปธรรม
ทว่า สันติและเบิกบาน
ดำรงอยู่ และดำเนินไป
เคียงคู่ขณะแห่งชีวิตเสมอ

อย่าได้หลงประสบการณ์
ดี-เลว บุญ-บาป คุณ-โทษ
เหล่านั้นเปรียบดั่งอากาศที่ไม่เคยไม่ผันผวน
เหล่านั้นเปรียบดั่งรุ้งล่องหน ทอดงามอยู่ปลายฟ้า

ปรารถนาไขว่คว้าสิ่งคว้าไม่ได้
เหนื่อยล้าตัวตนไปใย
เปิดใจและผ่อนคลายเสียแต่บัดนี้
ความว่างพลันปรากฏ

จงเปิดประตูไว้ เชื้อเชิญ และอำนวยสะดวก
จงผ่อนคลายกับความว่างอันไพศาล
จงสำราญกับธรรมชาติแห่งเสรี
ไม่ถามหาอนาคต
ไม่รีบรุดสู่ป่าอลหม่าน
จงมองดูเจ้าช้างใหญ่ผู้ตื่นแล้ว
ช้างใหญ่ผู้ตื่น แต่ผ่อนพัก
จงสงบอย่างตื่น
พำนักสบาย ๆ อยู่ในหทัยสถาน

ไม่มีอะไรต้องทำ
ไม่มีอะไรไม่ต้องทำ
ไม่มีอะไรต้องฝืน
ไม่มีอะไรต้องปรารถนา

อา..ช่างน่าพิศวง
อะไร อะไร ก็เคลื่อนไปอย่างนั้นเอง
สรรพสิ่งล้วนเป็นเองเช่นนั้น

"เสรี และ เรียบง่าย บทเพลงแห่งความเป็นเช่นนั้นเอง"
ลามะ เก็นดุน รินโปเช
สมพร พึ่งอุดม แปล ๒๕๔๖

คัดลอกจาก http://mild-dharma.blogspot.com/
มีอะไรน่าอ่านอีกมากมาย เราเอามาแค่ส่วนนึงเท่านั้น
เพื่อนๆไปเยี่ยมชม แล้วจะพบของดี

Friday, April 07, 2006

Good day

Today is a great day
I see my dad smile again
It was long long time that i can't remember
How can i keep this pic forever...
Anyway he deserve what he did hard work for many years

Big Guy i really love u jaaa..

Tuesday, April 04, 2006

ไปตายซะ..ไป๊

วันนี้ฟังข่าวแล้วหงุดหงิดซะเหลือเกิน
แม่งประเทศชาติ ปล่อยให้คนอย่างนี้เหยียบย้ำอยู่บนแผ่นดินนี้ได้ไง จริงๆแล้วต้องพูดว่า ไมมันถึงได้หน้าด้านหน้าทนขนาดนี้ ถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะจับมันตีก้นสักทีสองที แต่ตัวโตหัวเหลี่ยมขนาดนี้ คงต้องเอาเสาตาม่อสุวรรณภูมิมาเขกกะบาล จะได้จำใส่กระโหลกซะบ้าง
สุดท้ายก็เป็นนักการตลาดในคราบนายก ไม่ว่ากี่คำต่อกี่คำที่พ่นออกมจากปากมีแต่ประโยขน์เข้าตัวเองทั้งนั้น มีเท่าไรเอาเองหมดคนเดียว มูมมามขึ้นทุกวันๆ จะลุกจากเก้าอี้ก็ไม่กล้า กลัวกองขี้ที่นั่งทับไว้จะส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวน แล้วจะนั่งอยู่ในประเทศนี้ไม่ได้อีกต่อไป แหม..อยากให้มีใครใจกล้าไปถีบมันลงจากเก้าอี้จริงเร้ยยย..เกลียดดเข้าไส้จิงๆ