Wednesday, August 30, 2006

The Gang @Lampang



เอารูปเมื่อ5ปีที่แล้วมาโพส เตือนความทรงจำตัวเอง
Eeath & Fire Ceramic Factory
ขอบคุณเพือนฟิ่วที่ส่งรูปมาให้นะจ๊ะ


Sunday, August 27, 2006

วันอาทิตย์

ถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงแว่วแว่วข้างหู เหลือบตาดูนาฬิกาบอกเวลา12.00 นับว่ายังเช้ามากสำหรับวันนี้ พิจารณาสักพัก และล้มตัวนอนต่อ....
14.00 สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีความฝันค้างอยู่ในสมอง เริ่มปะติดปะต่อเป็นเรื่องราว แล้วนอนอมยิ้มอยู่คนเดียว วันนี้ฝันดีจริงๆ ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ แอบหวังว่าจะสบายดีเหมือนในฝัน ถ้าอยากรู้ เราก็สบายดีเหมือนกัน แม้วันๆนึงอาจจะยังทำตัวงอแงงี่เง่าไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นคนเดิมๆที่เคยเจอ คิดถึงและอยากเจอ..เผื่ออยากจะรู้

ว่างๆวันนี้หมดเวลาไปกับการอ่านเมลเกือบ200ฉบับ กลิ่นความรู้สึกเก่าๆลอยคละคลุ้งอยู่นาน อ่านไปเจอประโยคนี้เข้า
"คนที่จะหัวเราะได้เสียงดัง ข้างในคงต้องขำบ้างพอสมควร "
ชอบนะ แต่ไม่รู้ทำไม..

Saturday, August 26, 2006

จน!! เครียด!! ..กินจุ่ม

สโลแกนที่บังเกิดขึ้นจากมันสมองของผองเพื่อนเมื่อเวลาเกือบตี1ของวันที่25 สิงหาคม หลังจากไปกระโดดเย่วๆกันมาที่คอนเสริตทำเป็นเล่นไปของสมาคมนิสิตเก่าฯ ที่มาที่ไปคงไม่พ้นเรื่องกิน เรื่องกินที่อยากกิน แต่ไม่มีเงินจะกิน... ดังนั้นจะต้องหอบความหิวและง่วงกลับบ้านไป
สโลแกน เจ็งโดนใจ ขอเอามาเก็บไว้ให้ตัวเองเอาไว้ขำในวันต่อๆไป

Thursday, August 17, 2006

hypnotize myself

ขมวดคิ้ว หรี่ตามอง ฉันแกล้งทำเป็นหลับ, ในขณะที่แม่ขยับผ้าห่ม มาห่มตัวฉันลูบหน้าผากฉันเบาๆ เล่านิทานเรื่องนางฟ้าใจดีนางฟ้าที่บินมาให้พรวิเศษสามข้อแม่เล่าเรื่องนี้ทุกคืน, ซ้ำๆ แต่ฉันก็ยังชอบฟังเสียงแม่อ่อนโยนและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยได้ยินจากใครในโลกนี้

นางฟ้าใจดีมีพรสามประการ สำหรับคนที่มีปรารถนาในใจหากอยากได้อะไรก็ให้ขอทุกคืน แม่จะถามฉันว่าอยากได้อะไรฉันตอบไม่เคยซ้ำกัน อยากได้หุ่นยนต์ อยากได้เกมกดแต่ข้อสุดท้ายจะขอเก็บไว้เอาไว้ขอ ให้ขอได้อีกสามข้อ แม่หัวเราะฉันอย่างเอ็นดูหอมแก้มฟอดใหญ่ แล้วปิดไฟที่หัวเตียง

วันแรกเมื่อแม่พาฉันมาส่งที่โรงเรียน โลกภายนอกคือสถานที่ใหม่-ไม่คุ้นเคยแม่ดันหลังฉันเข้าไปในห้องเรียน ฝากฉันไว้กับคุณครู ฉันไม่ยอมเข้าไปในห้องนั้นมีแต่คนแปลกหน้า ฉันร้องไห้ราวกับว่า โลกกำลังจะแตกสลายเพราะคิดว่าแม่จะทิ้งฉันไป

นับตั้งแต่วินาทีที่ฉันเคยเป็นหนึ่งเดียวอยู่ในตัวแม่ จนถึงก้าวแรกที่ฉันเริ่มเดินห่างออกมาจากแม่ และค่อยๆ ห่างออกมาเรื่อยๆ ฉันไกลจากแม่มากขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนเราจะต้องอยู่ไกลจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ในผิวของฉัน มีสัมผัสของแม่.. ทำให้ฉันรู้ว่า โลกนี้ยังมีด้านที่สวยงาม ในลิ้นของฉัน มีรสชาติอาหารของแม่.. เพื่อให้ฉันยังไม่ลืมรากเหง้าของตัวเองไป ในหูของฉัน ยังมีเสียงกล่อมของแม่.. ปลอบโยนฉัน ในวันที่พ่ายแพ้ในใจของฉัน มีคำสอนของแม่.. เป็นเข็มทิศให้ฉันไม่ลอยคว้างอยู่ในโลกกว้าง ฉันจึงได้รู้ว่าฉันกับแม่ ไม่เคยห่างกัน

ขมวดคิ้วหรี่ ตามองฉันแกล้งทำเป็นหลับ, ฉันนอนหนุนตักแม่ อยากหยุดเวลาไว้ แม่ลูบหัวฉันเบาๆ เหมือนเมื่อก่อน แม่ไม่ต้องเล่าเรื่องนางฟ้าให้ฉันฟังแล้วนะ ฉันต่างหาก ที่จะพานางฟ้ามาให้แม่ แม่อยากได้พรกี่ข้อ ฉันเอง ฉันจะทำแม่ยิ้ม

แม่รู้ไหม, ถึงแม้วันนี้ ฉันจะเดินออกมาไกลจากอกแม่สักแค่ไหน แต่ใจฉันรู้อยู่เสมอว่า ฉันยังจำทางกลับไปได้...
ตัวหนังสือหน้ากอด จากผู้ชายน่ากอด บอย ตรัย ภูมิรัตน์

Unknowing

How do i know what is inside your head?
The Thousand time of sorry words,Didn't mean anything to you
How do i know what is inside your heart?
Haven't any of muttering flow through my ears
How do i know what have i done wrong?
Cos you still be silent while i m so be worried
Open your mouth and talk to me...DAMN IT!!!

Saturday, August 12, 2006

ปีใหม่ ไปไหนดีน้ออออ

ให้ดาว เป็นค่าครองชีพ และหัวใจเป็นความต้องการ
หลวงพระบาง..รอบสอง อาจมีหวิดไม่หนุกได้ ไม่น่าเสี่ยง เอาหัวใจไปแค่หนึ่งดวงก่อน แต่ดาวนี้ไม่อั้นถึงไหนถึงกัน
เวียดนาม..น่าสนมาก ขอให้10 ดาวแถมด้วยหัวใจอีก10
ทัวร์ยุโรป..อันนี้น่าสนใจมากที่สุด แต่ความเป็นไปได้ต่ำสุด ให้หัวใจร้อยดวง แต่ดาวถึงขั้นจะติดลบ
และอีกอย่างไม่มีเพื่อนรู้ใจ ใครอยากไปพร้อมกระเป๋ามีเงินหนาๆ มาให้เกาะหน่อยเร็ว55
ออสเตรเรีย..โปรแกรมพระเจ้าเหา เอาออกมาปัดฝุ่นใหม่ แต่ก็แอบชั่งใจอยู่เหมือนกัน..เอาไปอย่างละ 5 ละกัน

เอ้า ใครมีอะไรเสนออีก ว่ามาเลย จะได้เตรียมเก็บตังค์

Sweet Saxophone

ในที่สุดก็พาชีวิตกลับมาหาดนตรีดีๆ ได้อีกครั้ง หลังจากล่าสุดเลิกไปบราวเมื่อต้นปี เพราะรู้สึกเหมือนฟังดนตรีที่เต็มไปด้วยการระบายความเบื่อหน่ายและจำเจของชีวิตนักดนตรี แล้ว6เดือนที่ผ่านมา บราวชูก้าร์ก็ไม่ได้เอาเงินจากกระเป๋าเราไปได้แม้แต่แดงเดียว..นานโขเหมือนกันนะเนี่ยย
หลังเลิกงานวันพฤหัส ที่เต็มไปด้วยความเครียดและเหนื่อย พาตัวเองเข้าไปนั่งในร้าน โดยที่ไม่คิดว่าจะได้เจออะไรให้แปลกใจ ในใจคิดว่าไปนั่งชิวๆทักทายเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ แต่แล้ว..ผู้ชายกลุ่มนึงก็เริ่มทะยอยเข้าร้านมาพร้อมเครื่องดนตรีคู่ใจ เห็นแล้วว่าต้องไปธรรมดาแน่ แค่จะมาเล่นร้านนี้ได้ ก็ต้องมีอะไรนิดหน่อยอยู่แล้ว อายุอานามแต่ละคนรวมกันแล้วก็คงไม่น้อยอยู่ แล้วดนตรีก็เริ่มบรรเลง..โอวว น้ำตาจะไหล สังเกตตัวเองได้ว่า นั่งจ้องจนนักดนตรีถึงขั้นออกอาการเขิน คนที่เจนโลกหน่อย ก็หันมายิ้มให้ พอเป็นที่รู้กันว่า เก็บอาการไม่อยู่จริงๆ..555 และแล้วก็ต้องลงกิจกรรมทุกวันพฤหัสเป็นการไปอุดหนุนกิจการบราวชูก้าร์อีกครั้ง..จนได้และเต็มใจ

ใครไม่มีที่ไป..ก็ขอเชิญเร้ยย เจอกันแน่ๆ

Saturday, August 05, 2006

พลาด

วันพลาดๆอีกหนึ่งวัน
พลาดที่จะได้ทำงานที่รับผิดชอบให้เสร็จ..เลยต้องโยนขี้ให้เพื่อนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
พลาดที่จะได้ออกไปช๊อปปิ้งโดยมีงานบริษัทบังหน้า..พลาดสุดๆ
พลาดที่จะได้ไปตรวจงานและกลับมาแต่หัววัน..รถโคตรติดประเทศชาติ
ซึ่งเป็นผลให้พลาดงานนิทรรศการ และการเจอกันครั้งที่สองของเรา..
อุตส่าห์เตรียมมุขไปเล่นด้วย
พลาดที่ได้เจอคนที่ไม่ปราถนาว่าจะเจอ..อย่างเซ็ง
และสุดท้าย..พลาดที่จะใช้เงินอย่างประหยัด...ลงเอยเหมือนเดือนที่ผ่านๆมา ไม่มีผิดเพี้ยน
พลาดจริงๆ