Sunday, August 31, 2008

เรื่องของเพื่อน

"Sara,Sofi,Freda, Kestin, Masayoshi, Kayoko"
เพื่อนร่วมชั้นเรียนเซรามิค
"Kayako"เพื่อนร่วมบ้านและชั้นเรียนของเรา
"Emma" เพื่อนร่วมบ้านและร่วมชั้นเรียนของส้ม

Quote No.11


“สองปีกฝันจะกล้าแกร่งได้ ก็ต้องออกไปให้พ้นชายคา”
ไปตามเส้นทางของเรา
วรพจน์ พันธุ์พงศ์

Thursday, August 28, 2008

เล่นว่าวๆๆ




ที่นี้เค้าเปิดเรียนด้วยการชวนคำทั้งโรงเรียนประดิาฐ์ว่าวไปเล่นกัน..แจ๋วโคตร!!

ที่ที่ไปเล่น อยู่ห่างจากโรงเรียนไปไม่เท่าไร
เป็นพื้นทีโล่งๆที่คั่นอยู่ระหว่างถนนหลักสองเส้นที่วิ่งขนานกันตามความยาวของเกาะ
ที่นั้น ลมแรง หนาวจนขนลุก และเต็มไปด้วยขี้ม้า..
หืมม..มีม้าอยู่หลายตัว และดูเหมือนว่ามันคุ้นเคยดีกับคนเลยทีเดียว

หลังจากลองพยายามทำให้ว่าวกินลมได้ไม่กี่ครั้ง มันก็พัง
ความสนใจเลยเบนไปที่ม้าที่ยืนมองพวกเราอยู่อย่างสนใจ
..ไอ้มนุษย์พวกนี้ มันทำไรกันอยู่วะ?
และไม่นาน มันก็คิดว่าเศษว่าวของเราเป็นอาหาร
มันเข้ามาสำรวจและพยายามจะกินซะให้ได้..อย่างที่เห็น

หอบเอาความหนาวกลับมาที่โรงเรียน แล้วก็พบว่าแม่ครัวได้เตรียมชา กาแฟ และคุ๊กกี้ไว้ให้
มันหอมมาก และอุ่นมากด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ฮอกวอตส์ยังไงยังงั้นเลย..แจ๋วโคตร!
(พอดีกำลังอ่านHarry Potter เล่มสุดท้ายอยู่ด้วย แอบอินนิดหน่อย)

Tuesday, August 26, 2008

.



วันนี้เปิดเรียนนนนน!!

Sunday, August 24, 2008

...

วันนี้ว่าง...จัด จัด
เดินไปสำรวจรอบๆโรงเรียนอีกครั้ง
เดินไป เดินมา เดินไปเกือบ 6 กม.
ทั้งที่ฝนตกปรอยๆตลอดเวลา
ผ่านทุ่งหญ้า ฟาร์มหัวหอมใหญ่
ไร่ข้าว และถนนเล็กๆสำหรับจักรยาน

มองลงดูบนพื้นผิวถนนอย่างพิจารณา
เห็นทะเลไส้เดือนจำนวนนึง..
กำลังพยายามย้ายร่างตัวเองข้ามไปยังอีกฝั่งของถนน
บ้างตัวยาว บ้างตัวสั้น..
ที่สั้น เพราะโดนรถทับขาด
บางตัวยังมีชีวิต บางตัวขาดใจไปนานแล้ว
ปล่อยให้ภารกิจนี้ เป็นหน้าที่ของเพื่อนตัวอื่นๆไป
อยากนั่งดูมันเลื่อยไปเรื่อยๆ
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขนลุก เพราะจำนวนของมัน
บรึ๊ยยย.ย.

Friday, August 22, 2008

ณ ห้องหมายเลข 4



วันที่สอง
capellagarden,
Vickelby, Sweden
08.04 am


วันนี้เปลี่ยนกรอบหน้าต่างใหม่ แต่ทิวทัศน์ที่ได้เห็นยังคงเหมือนเดิม
เป็นต้นไม้ สนามหญ้าและแปลงดอกไม้หลากสี
กรอบไม้สนสีน้ำตาลซีดๆ สีของมันบ่งบอกอายุที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วหลายสิบปี

เมื่อวานเพิ่งย้ายห้องพัก เป็นอาคารเก่าอีกหลังที่อยู่ในบริเวณโรงเรียน ชื่อว่า Atelje
ณ ห้องหมายเลข 4

โต๊ะเขียนหนังสือตัวใหญ่กินเนื้อที่เกือบครึ่งในห้อง วางขนานชิดหน้าต่าง
ทำงานไป มองเห็นนกบินผ่าน ต้นไม้เอนไหว และฝรั่งทำสวน
ไม่ค่อยคุ้นกับการเห็นฝรั่งหัวทอง ผิวขาวนั่งทำสวน
ที่จำได้ เป็นคุณลุงแก่ๆ ผิวย่นๆ คล้ำและกร่ำแดดจนเกรียมเข้ม.

มาถึงที่นี้ ยังคงเปิดเพลงไทยฟังอยู่ตลอดเวลา ก็มันยังคุ้นเคย

เมื่อวานมีเพื่อนสวีเดนมาเยี่ยมถึงบ้าน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่ามีใครอยู่
ทำให้เมื่อคืนมีเสียงหัวเราะกันนิดหน่อย และด้วยความใจดีของเค้า
ทำให้เช้านี้ของเรา มีอาหารเช้าดีๆแบบสวีดิชกินกับเค้าบ้าง
โยเกิร์ต ซีเรียล ชีส เนยและมะเขีือเทศที่หอมกลิ่นอ่อนๆนอนกลิ้งมากับชาในกระป๋อง
ละมุนมาก สำหรับเช้าวันนี้

และด้วยรอยยิ้มแกมบังคับของเรา สายวันนี้เราจะไป Shopping ในเมืองกัน!!
เสื้อcoat ยาสระผม รองเท้า จักรยาน และอาหารไทย คือสิ่งที่ปราถนาจะเจอในวันนี้
wish me luck!!

Thursday, August 21, 2008

frist day in Sweden

ข้างหน้าต่างบนเครื่อง
เช้าแรกบนฟ้าในทวีปยุโรป
กลิ่นงานออกแบบสแกนดิเนเวียนที่ลอยมาเตะจมูกอย่างจัง
นี่ ก็เช่นกัน อวดบันไดสวย แต่เอาลิฟท์แอบไว้
ใครกระเป๋าใหญ่ มีหอบงานนี้
เข้าแล้ว อีกสามปีถึงจะออกได้
ขบวนแรก รถไฟใต้ดิน เข้าเมือง เท่มาก ผนังเป็นเหมือนถ้ำหินเลย
ขบวนที่ 3 ไม่ไหวแล้ว จะตาย(ตกขบวนที่ 2 เพราะหลับเป็นตาย)
ถึงแล้ว..โรงเรียนของเรา
หน้าห้องครูใหญ่
หน้าห้องอาหาร รอบๆโรงเรียนจะมีเก้าอีี้แบบนี้วางอยู่ตลอด
ห้องเรียนเซรามิค!!
ทางเดินในโรงเรียน

วันแรกที่ห่างบ้านมาไกลกว่า 1000 ไมล์
คิดถึง ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลงจากเครื่องบิน
โลโก้การบินไทย มีความหมายสุดๆ ก็งานนี้
มันเป็นเครื่องหมายเดียวที่ทำให้รู้ว่ายังมีอะไรที่เชื่อมต่อกันอยู่ระหว่างที่นี่กับบ้าน
ทำให้เข้าใจคนไกลบ้านทั้งหลายที่ตื่นเต้นได้แม้กระทั่งเจอคนไทยเดินสวนกันไป

ที่นี้เป็นเมืองเล็กมาก มีคนอยู่ไม่ถึง 300 คน ฉะนั้นยากมากที่จะเจอคนไทย
แม้กระทั้งคนเอเชียด้วยกันก็ตาม มื้อเที่ยงของวันแรกเลยกินมาม่าซะเลย

คนที่นี่น่ารัก เค้าตอนรับเราด้วย welcome tea และ cookie ที่หน้าตาเหมือนtoffee cake ที่มีมะพร้าวโป๊ะอยู่ข้างบน อร่อยมาก จนอยากกินไปเรื่อยๆ แต่ก็ต้องก้มมองพุงตัวเองไปพร้อมๆกัน
มาม่าวันนี้ เลยมีคนต่างชาติมาแจม เป็นการเลี้ยงอาหารกันไปมา แอบกังวลว่าเค้าจะท้องเสีย
แต่ก็เห็นว่า enjoy eating ดี เลยปล่อยผ่านไป ฮาๆๆ

ตอนนี้ถ้าใครได้เห็นว่าโรงเรียนเป็นไง คงอิจฉากันไม่น้อย สำหรับมนุษย์ขี้ chill ทั้งหลาย
นั่งเขียนหนังสือที่ริมหน้าต่างห้องนอนชั้นสอง มองเห็นโรงแรมเล็กๆสีเหลืองอ่อนๆที่อยู่ตรงข้าม ผ่านต้นไม้น้อยใหญ่ สีม่วง สีเขียวเป็นฉากหลัง พร้อมกันเอนไหวและส่งเสียงกันผ่านสายลมมาเป็นระลอกๆ

วันนี้หมดไปกับการนั่งมองต้นไม้ เดินไปสำรวจที่นารอบๆโรงเรียน
นาเค้าไม่เขียวเหมือนบ้านเรา ไม่มีควาย
แต่ได้กลิ่นขี้วัว พอให้นึกถึงบ้านขึ้นมาได้เป็นระยะๆ

หวังว่าทุกคนคงจะสบายดี

Sunday, August 17, 2008

last call

สองสามวันนี้ ได้พูดคำว่า "จะไม่ได้เจอกันอีกนานเลยนะ"บ่อยมาก
พูดเพราะใจหาย พูดเพราะมันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ

การไปเรียน ไม่ใช่ไปตาย เพื่อนคนนึงบอกไว้
แต่การห่างกันไป ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทำใครตกหล่นไปเช่นกัน
ในวันและเวลาที่มีร่วมกันมา ไม่ว่าจะสั้นหรือยาว มันมีความหมายกับเราทั้งนั้น

อยากจะขอบคุณทุกคน สำหรับทุกอย่างที่เคยให้และรับจากกันและกัน
ทั้งเวลาที่มีรอยยิ้ม และมีน้ำตา
เราไม่เคยอยู่คนเดียว เรารู้่ว่าเราจะมีเพื่อนเคียงข้างเสมอ
และจะจดจำตลอดไป

แล้วเจอกันนะ :)

Thursday, August 07, 2008

ขอบริจาค..ใบหวยยยยย



ซื้อแล้วไม่ถูก ทั้ง 2 ตัว 3 ตัว อย่าเพิ่งทิ้ง มันมีประโยชน์นัก
เรื่องสนุกๆ กำลังจะเกิดขึ้น ร่วมเป็นส่วนนึงได้ง่ายๆ
ด้วยการบริจาคกระดาษแห่งความหวังและการเสี่ยงโชคแก่เรา
แล้วเราจะเอามันมาแปลงร่างทำเรืองหนุกๆกันนะ

Monday, August 04, 2008

เขาแผงม้า โคราช


โดยน้องบอย ผู้คร่ำครวญ
ครั้งแรกทีได้ดำนา และร้องเพลง "ข้าวนี้..มีบุญ..คุณอันใหญ่หลวง"
สวนไผ่และสายลมเย็น