Wednesday, July 22, 2009

สูตรแห่งชีวิตประจำวัน


๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัวเองกับคนอื่น
คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขามีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง

๒.
อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับเรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลกในแง่ร้าย,
ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิดทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย

๓.
อย่าทำอะไรเกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔.
อย่าเอาจริงเอาจังกับตัวเองนัก เพราะคนอื่นเขาไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕.
อย่าเสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับเรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....
นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง

๖.
จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอนหลับ
๗.
ความรู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...
คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว

๘.
ลืมเรื่องขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามีหรือภรรยาคุ
เกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ

๙.
ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
๑๐.ประกาศสงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ

๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง

๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียนรู้
และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หายไป...
เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอดชีวิต

๑๓.
จงยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔.
คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถกแถลงกับคนอื่นหรอก...
บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกันได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้างเราล่ะ
?

๑.
อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒.
จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓.
จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔.
จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6 ขวบ
๕.
พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖.
คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย
๗.
งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่า
ที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหาสุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็นอันขาด

และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำดังต่อไปนี้

๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข
เสมอ...ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่
?

Monday, July 20, 2009

หาบ้าน หาบ้าน หาบ้าน

มีแต่คำนี่บินว่อนอยู่ในหัว

เกือบสองเดือนได้แล้ว ที่ออกตะลอนหาบ้าน
จริงจังบ้าง ไม่จริงจังบ้าง
แล้วแต่โอกาส และอากาศจะอำนวย

จริงๆ ก็เจอและบ้านดีๆอะ
แต่บ้างแพง บ้างไกล บ้างน่ากลัว
ในที่สุด ก็เจอ แต่เช่ายาวไม่ได้
ตอนนี้นั่งภาวนาให้เค้ายอมปล่อยให้เช่าสักปีเป็นอย่างน้อย
เถอะนะ เห็นใจคนไทยตาดำๆ จนๆ ด้วยเถิด