Monday, March 20, 2006

หวังไว้ว่า

เคยรู้สึกว่าทำไมชีวิตถึงได้ต้องการที่จะชนะ หรือได้มาตลอดเวลา
แต่ก่อนเคยเป็นหนึ่งในคนจำนวนนั้นที่คิดอยากได้ อยากมี แต่ ณ เวลานี้ ขอเพียงอยางเดียวคือ ให้มีความสุขทั้งกายและใจ และที่สำคัญไม่เดือดร้อนใคร อยากทำอะไร..ทำ ไม่ต้องเอาตัวเองไปวางบนกฏเกณฑ์ของสังคมจนทำให้ต้องร้อนใจ ทำบ้างเพื่อความกลมกลืน แต่ไม่คลุกคลี เหนื่อยเปล่า ในเมื่อคนเราไม่เริ่มที่จะเรียนรู้เส้นกลางถนนของตัวเอง แล้วเราจะต้องตามสังคมไปถึงเมื่อไรกัน
ว่าไปถ้านับกันด้วยจำนวนทรัพย์สินที่พอมีติดบ้านอยู่บ้าง ก็จัดว่าเป็นชนชั้นล่างจนเกือบต่ำก็ว่าได้ จากที่เคยมีและคิดจะก่อร่างสร้างตัวจากอสังหาริมทรัพย์และหุ้นตามกระแสสังคมในตอนนั้น ก็มาพังทลายไปพร้อมกับฟองสบู่อีกหลายฟอง เวลาผ่านมาแล้วเกือบสิบปี บาดแผลนั้นก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ทุกวันลึกลงไปในหัวใจของผู้ชายคนนึงที่ครั้งนึงเคยมองโลกในแง่ดีและมีความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ดีในฐานะหัวหน้าครอบครัว เคยจับมือลูกเล่นระบายสีน้ำด้วยกัน แล้วหัวเราะกันสนุกสนาน แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นความผิด กลายเป็นศัตรู จากบาดแผลของคนนึงกลายเป็นบนเรียนให้กับคนอีกคนนึง บทเรียนที่สอนให้ตัวเองรู้ว่าหากคนเราไมรู้จักปล่อยว่างลงบ้าง มันก็เหมือนสร้างกำแพงปิดกั้นความสุขที่ควรจะเป็นของเรา ถ้าบ่อความคิดได้แตกลงเมื่อไร วันนั้นเค้าคงจะได้เป็นอิสระซะที..

No comments: