Sunday, March 26, 2006

วันหยุดสุดสัปดาห์

16.00 เริ่มขยับร่างกายเข้าสู่วงจรการใช้ชีวิตกลางคืนอีกครั้ง
5วันที่ผ่านมา มีแต่ความรู้สึกแย่ๆเกี่ยวกับทรรศนะคติของคนรอบข้าง..
คนเรานี้ช่างเข้าใจยากจิงๆ บ้างที่ความพยายามที่มีอย่างมากมาย ก็เหือดหายได้อย่างรวดเร็ว
งั้น weekendนี้ขอปล่อยผีหน่อยละกัน...Let's go buddy!!
หลังจากนั่งอยู่กลางฝูงชนราวแสนคน เกือบ3 ชม.ได้ 22.00 ก็เริ่มขยับตัวเองเข้าสู่แหล่งอบายมุขเพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของเพื่อน ณ อัครสถาน อาร์ซีเอ พระรามเก้า หลังจากห่างเหินไปสลายตัวอยู่ในอาศรมของวงเหล้าคนแก่เป็นเวลานาน
ต้องขอบคุณเพือนรักที่บิวอารมณ์ได้อย่างหลุดโลก เลยทำให้คืนนั้นสนุกขึ้นเป็นล้านเท่า ไมงั้นคงนั่งเซ็งกับเพลงดึ๊ดๆทั้งคืนเป็นแน่
พูดถึงวันเกิด ต้องไม่พ้นที่จะมีเพลงและเค้กวันเกิดแน่ๆ อย่างหลังถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องสลักสำคัญเท่าไร เพราะคนในวงเหล้าย่อมรู้ดีว่าเหล้ากับเค้กเป็นของที่เข้ากันไม่ได้อย่างแรง ครั้งนึงเคยนึกขัดใจเลยลองกินมั้งสองอย่างไปพร้อมๆ ปรากฎผลว่าได้ไปให้ปุ๋ยต้นไม้ที่บ้านก่อนนอนจนได้ แถมอาการปวดกบาลติดต่อกันหลายสิบชั่วโมง..ไม่คุ้มๆ
ครั้งนี้ลองใหม่ ด้วยเพราะไม่อยากแบกอาการปวดหัวกลับบ้าน คราวนี้เลยขอเมาลมเลยละกัน..ได้ผล คืนนั้นผ่านมาได้ด้วยดี พร้อมคำชมของเพื่อนถึงสเตปเท้าไฟที่ได้วาดลวดลายไว้ตลอดคืน 555 ขำจิงๆ
ว้า..ผับปิดจนได้..หิวแล้วไปหาอะไรกินกันเถอะ..
ระหว่างทางไปประตูน้ำแหล่งอาหารคนกลางคืน รถก็เกิดติดขึ้นมาซะงั้น ไรหว่า นี้มันจะตี 3 อยู่แล้วนะ..ติดได้ไง..หึ หืมม คร่อก...หลับรอไปเลยอยากติดกันนัก
ทักษัณออกไป !! ทักษัณออกไป!!
อยู่ดีๆก็ได้ยินคำนี้วิ่งเข้าหูมากระตุกหนังตาให้เปิดขึ้นมาพบกับกลุ่มม๊อบนศ.รามคำแหงขับไล่นายกที่หน้าที่ทำการพรรคไทยรักษ์ไทย
การเมืองไทย สุดท้ายก็วนมาที่เดิม อยากรู้จริงๆว่านับจากวันนี้ไปจนตัวเองแก่ตายจะต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกกี่ครั้ง ครั้งแรกที่รู้สึกตื่นเต้นกับการประท้วงเกี่ยวกับประชาธิปไตยก็ตอนที่อายุไม่แตะเลย 2 เลย ตอนนั้นอยากไปเห็นกับตาตัวเองซะให้ได้ คำว่าอุดมการณ์ทางการเมืองอะไรไม่เคยรู้จัก หรือจะหลบอยู่ในหลืบสมองส่วนไหนก็ตาม ความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆจริงๆ ถึงขนาดว่าคะยัยคะยอแม่ต้องพาไปเดินนับรอยลูกกระสุนเคล้ากลิ่นคาวเลือดเลยทีเดียว แต่นั้นก็หลายสิบปีผ่านมาแล้ว มาครั้งนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกครั้งบวกกับความรู้และข้อมูลที่พอมีติดติ่งสมองอยู่บ้าง ก็ได้พาตัวเองเข้าสู่วงในของการประท้วงที่กำลังคุกรุ่นอยู่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย
แต่ไม่ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไรก็ตาม ขออย่างเดียวอย่าให้เด็กๆต้องมาแข่งกันนับรอยกระสุนตามต้นไม้เคล้ากลิ่นคาวเลือดประชาชนเหมือนเราเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วอีกเลย..

No comments: