นั่งรถผ่านโรงพยาบาลหลายที ทุกครั้งต้องเหลือบมองไปที่ชั้น 8 หลายเดือนก่อนย้อนหลังกลับไป ที่นี้เคยเป็นสถาทีแห่งหนึ่งที่จะต้องแวะทุกเย็นก่อนกลับบ้าน ยายเป็นเหตุผลของช่วงเวลานั้น ยายไม่สบายหนัก และเกือบ6 เดือนแล้วที่ยายได้จากไป ทุกครั้งที่ผ่าน ก็ยังต้องจองมองที่นั้น เหมือนว่ายายยังนอนหลับอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา
คล้ายกับทุกๆเช้า... ระหว่างเดินทางไปทำงาน ทุกครั้งที่รถเมล์แล่นผ่านหน้าตลาดย่านชุมชนเล็กๆ สิ่งที่คอยมองหา คือชายชราคนนึงในร้านขายของชำขนาดสองคูหาสภาพทรุดโทรมและขมุกขมัว สภาพในร้านไม่ได้แตกต่างอะไรจากร้านขายของชำทั่วๆ ไป หม้อชามรามไห ขนมนมเนย กระบุง ตระกร้า ถังน้ำ และรองเท้า ทุกอย่างมีให้จับจ่าย ทุกๆเช้าชายชราจะเปิดร้านและจัดเรียงสินค้าทุกชิ้นตามปกติ ถังน้ำทุกใบ รองเท้าทุกคู่ จะถูกจัดวางไว้หน้าร้านเพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเลือกชมได้อย่างถนัดตา แต่ทว่าของทุกอย่างนั้น มีสภาพคล้ายกับไม่เป็นที่ต้องการมาแรมปี บางชิ้นเหลืองกรอบตามอายุของวัสดุ บางชิ้นเครอะดำเพราะฝุ่นจากท้องถนน ถึงยังงั้นก็ดี มันก็ถูกบรรจงปัดฝุ่น และเรียงไว้หน้าร้านทุกเช้าอย่างตั้งใจ คล้ายกับว่าชายชรากำลังรออย่างอดทนว่าสักวันนึงมันจะเจอคนที่อยากเป็นเจ้าของและนำพามันออกไปจากสถานที่แห่งนี้เสียที สงสัยอยู่ในใจคนเดียวว่า คงเป็นเพราะความเคยชิน ความเหงา หรืออาจเป็นเพราะจู่ๆครึ่งนึงของชีวตก็หายไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
ความสงสัยเป็นเหตุผลที่ทำไมจะต้องมองหาคุณลุงคนนั้นในทุกๆเช้า มันกลายเป็นความผูกพันอย่างบางๆที่เกิดโดยไม่รู้ตัว ถ้าวันไหนไม่เจอกัน ก็คงเป็นเพราะว่าชายชราเอารองเท้าไปส่งให้ใครสักคนที่ต้องการมันก็เป็นได้...
เวลานี้..วินาทีนี้ ขอถอยหลังเข้ามุม นั่งลงกับพื้น หรือไม่ก็ยืนบนเก้ากี้สักตัว เพื่อมองทุกอย่างในมุมใหม่ ไม่แน่ว่าสักวันที่รู้เหตุผลของอะไรบางอย่าง วันนั้นชีวิตอาจมองเห็นมุมของความสุขในตัวมันก็เป็นได้
Tuesday, October 24, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 comment:
เรื่องบางเรื่องอาจไม่จำเป็นต้องมีที่มาและที่ไป
แต่อยู่ได้ด้วยตัวมัน
Post a Comment