Tuesday, April 28, 2009

ความทุกข์น้อย

ตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกที่ตอนนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่ามันเป็นยังไง
จำได้แค่ว่า เช้านี้นั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหาร
แล้วก็เห็นเพื่อนคนนึงเอาช้อนยัดลงไปในกระเป๋ากางเกง
เพราะสองมือเต็มไปด้วยจานและขนมปังก้อนโต
เห็นแล้วก็ยิ้มออกมาเอง
จริงๆแล้ว การนั่งสังเกตชาวบ้านในมุมห้อง
เก็บรายละเอียด แล้วเอามาหัวเราะอยู่คนเดียว
ก็เป็นกิจกรรมที่รักยิ่งมานานแล้ว
คิดแบบจิตวิทยา คงเดาๆกันว่าเพราะมันรู้สึกปลอดภัย
แต่เอาแบบบ้านๆ ก็คงเรียกได้ว่าสอดรู้
แต่ทำได้ก็ต่อเมื่อตัวเองอยู่ในความกึ่มๆอย่างนี้เท่านั้น

กึ่มๆคือ ไม่สุขมาก แต่ก็ไม่ทุกข์มาก
ด้วนอารมณ์แบบนี้นี่แหละ
ทำให้มีความสามารถพิเศษขึ้นมาหนึ่งอย่างคือ
ความสามารถที่จะมองเห็นบางอย่าง อย่างไม่บิดเบือน
พอเห็นได้อย่างนั้นแล้ว รู้สึกยิ้มที่มุมปากอย่างยอมรับ
ว่ามันก็เป็นเช่นนั้นเอง..

เห็นว่ามันมีขึ้นและลง..กลับไป กลับมา
ไม่ได้กดข่ม แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
พอเป็นอย่างนี้ก็สามารถบอกตัวเองได้อีกว่า
วันนี้ฉันพร้อมจะช่วยคนอื่นหละ
เพราะตัวเองรู้สึกสงบ และปลอดภัย
อันนี้ก็บอกได้เช่นกัน

มันทำให้นึกถึงเพื่อนคนนึงที่บอกว่า
จริงๆแล้วชีวิตไม่ได้มีสุข
มันมีแต่ทุกข์น้อย กับทุกข์มาก
งั้นวันนี้ก็คงพูดกับตัวเองได้ว่า
มีทุกข์น้อยดีจัง!

No comments: