ตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกที่ตอนนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่ามันเป็นยังไง
จำได้แค่ว่า เช้านี้นั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหาร
แล้วก็เห็นเพื่อนคนนึงเอาช้อนยัดลงไปในกระเป๋ากางเกง
เพราะสองมือเต็มไปด้วยจานและขนมปังก้อนโต
เห็นแล้วก็ยิ้มออกมาเอง
จริงๆแล้ว การนั่งสังเกตชาวบ้านในมุมห้อง
เก็บรายละเอียด แล้วเอามาหัวเราะอยู่คนเดียว
ก็เป็นกิจกรรมที่รักยิ่งมานานแล้ว
คิดแบบจิตวิทยา คงเดาๆกันว่าเพราะมันรู้สึกปลอดภัย
แต่เอาแบบบ้านๆ ก็คงเรียกได้ว่าสอดรู้
แต่ทำได้ก็ต่อเมื่อตัวเองอยู่ในความกึ่มๆอย่างนี้เท่านั้น
กึ่มๆคือ ไม่สุขมาก แต่ก็ไม่ทุกข์มาก
ด้วนอารมณ์แบบนี้นี่แหละ
ทำให้มีความสามารถพิเศษขึ้นมาหนึ่งอย่างคือ
ความสามารถที่จะมองเห็นบางอย่าง อย่างไม่บิดเบือน
พอเห็นได้อย่างนั้นแล้ว รู้สึกยิ้มที่มุมปากอย่างยอมรับ
ว่ามันก็เป็นเช่นนั้นเอง..
เห็นว่ามันมีขึ้นและลง..กลับไป กลับมา
ไม่ได้กดข่ม แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
พอเป็นอย่างนี้ก็สามารถบอกตัวเองได้อีกว่า
วันนี้ฉันพร้อมจะช่วยคนอื่นหละ
เพราะตัวเองรู้สึกสงบ และปลอดภัย
อันนี้ก็บอกได้เช่นกัน
มันทำให้นึกถึงเพื่อนคนนึงที่บอกว่า
จริงๆแล้วชีวิตไม่ได้มีสุข
มันมีแต่ทุกข์น้อย กับทุกข์มาก
งั้นวันนี้ก็คงพูดกับตัวเองได้ว่า
มีทุกข์น้อยดีจัง!
Tuesday, April 28, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment